July 12, 2016

คุณดื่มชาอะไร มาดูสรรพคุณของ ชา 6 ชนิดกันค่ะ

คุณประโยชน์ของ ชา 6 ชนิด มาดูกันว่าชาแต่ละชนิดมีประโยชน์ต่อร่างกายยังไงบ้าง

ชาเพื่อสุขภาพ

1. ชาดำ (Black tea)
ชาดำเป็นชาที่แพร่หลายมากที่สุดชนิดหนึ่ง เกิดจากการเอาใบชาสายพันธุ์ Camellia sinensis มาผ่านกระบวนการบ่มชา อบแห้ง และบดใบชา ชาชนิดนี้จะมีรสชาติขมเล็กน้อย และมีปริมาณคาเฟอีนมากที่สุดในบรรดาชาด้วยกัน (40 มิลลิกรัมต่อถ้วย) แต่ก็ยังน้อยกว่าในกาแฟค่ะ
ชาดำนั้นจะอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น Theflavins, Thearubigins เป็นต้น ซึ่งจะมีส่วนในการช่วยลดคอเลสเตอรอลในเลือดอีกด้วย มีการศึกษาพบว่า คนที่ดื่มชาดำประมาณ 3 ถ้วยต่อวัน จะมีโอกาสเกิดภาวะหัวใจวายเฉียบพลันลดลงถึง 21%

2. ชาเขียว (Green tea)
ชาเขียวนั้นจะมีกลิ่นที่หอมนุ่มนวลกว่ากลิ่นของชาดำ โดยจะมีปริมาณคาเฟอีนที่น้อยกว่าชาดำ คือ 25 มิลลิกรัมต่อชา 1 ถ้วย ชาเขียวนั้นมีสารต้านอนุมูลอิสระจำนวนมาก เช่น สาร Catechins ซึ่งช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งและโรคหัวใจ มีการศึกษาพบว่าการดื่มชาเขียววันละ 1 ถ้วยจะลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเกี่ยวกับหัวใจได้ประมาณ 10% ค่ะ

3. ชาอู่หลง (Oolong tea)
ชาอูหลงนั้นผลิตจากใบชาชนิดเดียวกับชาดำ แต่ผ่านกระบวนการบ่มใบชาที่สั้นกว่า ทำให้ได้รสชาติที่ดีกว่า ชาอูหลง 1 ถ้วยจะมีปริมาณคาเฟอีนประมาณ 30 มิลลิกรัม หลายคนเชื่อว่าชาชนิดนี้ช่วยในการลดน้ำหนัก เพราะสารในชาอูหลงนั้นจะช่วยกระตุ้นการทำงานของเอนไซม์ที่ทำหน้าที่ในการ ย่อยไขมันในกลุ่มไตรกลีเซอไรด์ มีการศึกษาหนึ่งพบว่าผู้หญิงที่ดื่มชาอูหลงจะมีอัตรการเผาผลาญพลังงานได้ เร็วกว่าผู้หญิงที่ดื่มน้ำเปล่าเล็กน้อย

4. ชาขาว (White tea)
ชาขาวได้จากการเก็บใบชาตั้งแต่ยอดชายังอายุน้อยๆ ชาชนิดนี้จะมีกลิ่นอ่อนกว่าชาชนิดอื่นและมีปริมาณคาเฟอีนน้อยกว่า คือ ประมาณ 15 มิลลิกรัมต่อถ้วย พบว่าชาที่ชงจากใบชาใส่กาจะมีปริมาณสารต้านอนุมูลอิสระมากกว่าชาที่ชงจากชา ที่อยู่ในถุงชาค่ะ
ประโยชน์ของชาขาวนั้นมีหลากหลาย ตั้งแต่ช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งและโรคหัวใจเหมือนชาชนิดอื่นๆแล้ว พบว่าชาขาวอาจจะมีประโยชน์ช่วยป้องกันโรคเบาหวานอีกด้วย เพราะพบว่าผู้ที่ดื่มชาขาวเป็นประจำ จะมี Glucose tolerance ดีขึ้น (ความทนต่อการเพิ่มขึ้นของน้ำตาลกลูโคสในเลือด หรือพูดง่ายๆก็คือ ร่างกายสามารถปรับตัวให้มีการหลั่งอินซูลินออกมาควบคุมปริมาณน้ำตาลกลูโคสใน เลือดได้นั่นเอง) และยังช่วยลดคอเลสเตอรอลได้อีกด้วยค่ะ

5. ชาอโรม่า/ชาแต่งกลิ่น (Aromatic tea, Flavored tea)
ชาอโรม่าก็คือ ชาที่นำผลิตภัณฑ์ที่ให้กลิ่นหอม เช่น ลาเวนเดอร์ อบเชย(ชินนามอน) เปลือกส้ม มาผสมกับใบชาต่างๆอาจจะเป็นชาดำ ชาขาว หรือชาเขียวก็ได้ ชาชนิดนี้อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระคล้ายกับในชาชนิดอื่นๆ และชาอโรม่าบางชนิดที่ผสมผลไม้บางชนิด เช่นชาบลูเบอร์รี่ ก็อาจจะยิ่งมีสารต้านอนุมูลอิสระเพิ่มขึ้นได้

แต่ผลิตภัณฑ์ชาอโรม่าหรือชาแต่งกลิ่นนี้ ไม่แนะนำให้ทานแบบที่ชงสำเร็จบรรจุขวดมาขายนะคะ เพราะชาเหล่านี้มักจะใส่น้ำตาลในปริมาณมาก (น้ำตาลเยอะๆคงไม่ดีต่อสุขภาพแน่ๆ) และยังมีปริมาณสารต้านอนุมูลอิสระน้อยกว่าแบบชงเองถึง 20 เท่าด้วยค่ะ

6. ชาสมุนไพร (Herbal tea)
ชาสมุนไพรนั้นจริงๆแล้วไม่ใช่ชา งงกันหรือไม่ค่ะ เนื่องจากชาสมุนไพรนั้นทำจากผลไม้ ดอกไม้ และสมุนไพรตากแห้ง ไม่ได้มีส่วนผสมที่เป็นใบชาเลย (แต่เราก็ยังเรียกว่าชา เพราะวิธีการชงนั้นเหมือนกับการชงชาทั่วๆไปนั่นเอง) ชาชนิดนี้ไม่มีคาเฟอีน (เพราะอย่างที่บอกไปแล้วว่าไม่มีส่วนประกอบของใบชาอยู่เลย) แต่ไม่แนะนำให้ดื่มชาสมุนไพรยี่ห้อที่อ้างสรรพคุณว่าช่วยลดน้ำหนักนะคะ เพราะมีโอกาสสูงมากที่จะเจอชาที่ผสมยาระบายที่อาจเป็นพิษต่อร่างกายได้ค่ะ

ประโยชน์ของชาสมุนไพรนั้น มีข้อดีตรงที่ ชาสมุนไพรจะมาจากพืชสมุนไพรโดยตรง จึงไม่มีสารคาเฟอีนในใบชา เหมือนชาเขียว, ชาอู่หลง ที่มีลักษณะแบบชาจีน การดื่มชาสมุนไพรจะช่วยทำให้ความดันเลือดลดลงในผู้ป่วยที่มีปัญหาความดัน เลือดสูง เช่นชาดอกคาโมมายล์นั้นเชื่อกันว่าจะช่วยทำให้หลับสบายขึ้น และชาเปปเปอร์มินท์จะช่วยให้สบายท้องค่ะ

กันต์โตะ ชาสมุนไพร เชียงใหม่
www.chiangmaiteashop.com
Line ID: @chiangmaitea

Read more…

April 27, 2016

สมุนไพรกับการรักษาโรคกระเพาะอาหารและโรคกรดไหลย้อน

สมุนไพรกับการรักษากลุ่มโรคทางเดินอาหาร สมุนไพรที่ดีมีประโยชน์โดยตรงในการดูแลรักษาโรคกระเพาะอาหารและโรคกรดไหลย้อน รวมถึงอาการจุกเสียด แน่นท้อง มีลมในท้อง อาหารไม่ย่อย คือ ขมิ้นชัน และดอกคาโมไมล์

ขมิ้น แก้โรคกรดไหลย้อน


ขมิ้นชัน (Turmeric) มีชื่อท้องถิ่นอื่น ๆ ว่า ขมิ้นทอง, ขมิ้นดี, ขมิ้นไข, ขมิ้นหยวก, ขี้มิ้น, ขมิ้นแกง เป็นต้น และมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Curcuma longa L. จัดอยู่ในวงศ์ขิง (ZINGIBERACEAE) จัด เป็นพืชจำพวกเหง้า ใบเป็นแผ่นรูปหอกปลายแหลมกาบใบแคบมีร่องเล็ก ๆ สีเขียวอมน้ำตาล ดอกออกเป็นช่อใหญ่จากเหง้าสีขาว เนื้อในเหง้ามีสีส้มและมีกลิ่นฉุน

สรรพคุณของขมิ้นชัน
ช่วย เจริญอาหาร ยาบำรุงธาตุ ฟอกเลือด แก้ท้องอืดเฟ้อ แน่น จุกเสียด อาหารไม่ย่อย ลดกรด และยังพบว่า สมุนไพร ขมิ้นชัน เป็นสมุนไพรที่มีสารเคอคิวมินอยด์ที่ซึ่งมีอยู่ในเหง้าหรือหัวของขมิ้นชัน สารนี้ช่วยป้องกันการเกิดแผลในกระเพาะอาหาร ลดการอักเสบ กระตุ้นการขับน้ำดีจึงทำให้ระบบการย่อยอาหารดีขึ้น ทั้งยังช่วยกระตุ้นการหลั่งของสาร มิวซิน ซึ่งเป็นสารเคลือบกระเพาะอาหาร จึงทำให้แผลดีขึ้น มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย และน้ำมันในขมิ้นชันยังช่วยแก้ท้องอืดท้องเฟ้อได้อีกด้วย

คาโมไมล์ chamomile tea
ชาดอกคาโมไมล์ (Camomile FlowerTea) ชาดอกไม้ที่ช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยเรื่องระบบทางเดินอาหาร ในดอกคาโมมายล์มีน้ำมันธรรมชาติซึ่งมีคุณสมบัติทำให้ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ จึงช่วยทำให้เราหลับสบายขึ้น และกลิ่นที่หอมยังช่วยเรื่อง ผ่อนคลายจากภาวะความเครียดได้ ให้ความรู้สึกสดชื่น ผ่อนคลายจาก ชาคาโมไมล์ได้เป็นอย่างดี


มีงานวิจัยที่รับรองว่า "ชาดอกคาโมมายล์" มีสรรพคุณต่างๆมากมายดังนี้
-ช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน
-มีส่วนช่วยป้องกันและรักษา ในเรื่องระบบทางเดินอาหาร เช่นโรคกระเพาะหรือลำไส้
-ลดอาการปวดประจำเดือน และลดอาการท้องอืดท้องเฟ้อ
-กลิ่นที่หอม หวาน ยังช่วยเรื่อง ผ่อนคลายจากภาวะความเครียดได้
-มีคุณสมบัติทำให้ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ จึงช่วยให้เราหลับสบายขึ้น
-ทำเป็นเครื่องดื่ม ให้ความรู้สึกสดชื่น ผ่อนคลาย
ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ชาวตะวันตกและหลายๆคน จึงเริ่มที่จะหันมานิยมดื่ม " ชาดอกคาโมมายล์ " ก่อนนอน


ทีนี้เราลองมาดูอาการของโรคแต่ละโรคกันว่าเป็นยังไง
โรคกระเพาะอาหาร
โรคกระเพาะอาหาร คือ ภาวะที่มีแผลเยื่อบุกระเพาะและลำไส้ถูกทำลาย ถึงแม้ว่าจะเรียกว่าโรคกระเพาะแต่ก็สามารถเป็นได้ทั้งที่กระเพาะและลำไส้ เพราะน้ำกรดหรือน้ำย่อยในทางเดินอาหารของเราได้หลั่งออกมามากเกินความจำเป็น ส่งผลทำให้ไปกัดกร่อนหรือทำลายเนื้อเยื่อที่อยู่ภายในทางเดินอาหารของเรา และสาเหตุที่ทำให้มีน้ำกรดหรือน้ำย่อยออกมามากเกินนั้น ก็มีสาเหตุมาจากหลาย ๆ ปัจจัย ซึ่งส่วนใหญ่ก็เกิดจาก พฤติกรรมของเราเป็นส่วนใหญ่ ได้แก่


1. การถูกกระตุ้นของระบบปลายประสาท ซึ่งเกิดจากความเครียดหรือวิตกกังวล
2. การดื่มแอลกอฮอล์ ได้แก่ เหล้า เบียร์ ยาดอง ชา กาแฟ หรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน (Caffeine) เพราะสารชนิดนี้จะมีผลกระตุ้นทำให้กรดหลั่งออกมามาก
3. การสูบบุหรี่ก็มีผลกระตุ้นทำให้เกิดการหลั่งกรดออกมามากด้วยเช่นกัน
4. การกินอาหารไม่เป็นเวลา ทำให้น้ำกรดในร่างกายมีสภาวะสับสน และทำให้น้ำกรดหลั่งออกมาไม่ถูกเวลา จึงส่งผลกระทบกัดกร่อน เนื้อเยื่อในทางเดินอาหารได้
5. นอกจากพฤติกรรมดังกล่าวยังมีอีกหลายปัจจัยปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นโรคกระเพาะได้ เช่น การเลือกรับประทานยาที่มีฤทธิ์กัดหรือทำลายเนื้อเยื่อทางเดินอาหาร การมีโรคประจำตัว เช่น โรคไทรอยด์เป็นพิษ ที่ส่งผลกระตุ้นน้ำกรดหลั่งออกมาได้เช่นกัน

อาการของโรคกระเพาะ
1. ปวดท้อง ลักษณะอาการปวดท้องที่สำคัญ คือ ปวดตรงบริเวณกลางท้อง เหนือสะดือ หรือบริเวณใต้ลิ้มปี่ (เพราะตำแหน่งนี้เป็นตำแหน่งของกระเพาะอาหาร) รวมทั้งมีอาการของ ปวดแบบจุกเสียด แสบร้อน แต่ในบางรายอาจมีอาการปวดในช่วงกลางคืนได้ด้วย2. จุกเสียด แน่นท้อง ท้องอืด ท้องขึ้น ท้องเฟ้อ เรอลม มีลมในท้อง ร้อนในท้อง คลื่นไส้อาเจียน

อาการโรคแทรกซ้อนที่พบ ได้แก่
- อาเจียนหรือถ่ายดำ เนื่องจากมีเลือดออกในกระเพาะอาหารหรือลำไส้เล็กส่วนต้น
- ปวดท้องรุนแรงและช็อค เนื่องจากแผลกระเพาะอาหารหรือลำไส้เล็กทะลุ
- ปวดท้องและอาเจียนมาก เนื่องจากการอุดตันของกระเพาะอาหาร
- บางรายไม่มีความสัมพันธ์หรือแสดงอาการอะไร แต่มีภาวะน้ำหนักตัวลด เบื่ออาหาร แน่นท้อง คลื่นไส้อาเจียนบ่อย ๆ ตลอดเวล

โรคกรดไหลย้อน
กรดไหลย้อน (Gastroesophageal Reflux Disease – GERD) คือ ภาวะที่มีน้ำย่อย หรือ น้ำกรดในกระเพาะอาหาร ไหลย้อนขึ้นไปในหลอดอาหารจนส่งผลให้มีอาการต่าง ๆ เหล่านี้ คือ


1. ระคายเคืองบริเวณลำคอ ทำให้บางคนมีเสียงแหบ เสียวฟัน เรอเปรี้ยว กลืนน้ำลายติดขัด หรือเหมือนมีอะไรมาจุกอยู่บริเวณลำคอ หรือมีอาการไอเรื้อรังเป็นเวลานาน2. แสบร้อนบริเวณหน้าอก หรือจุกเสียดแน่นบริเวณใต้ลิ้นปี่ ทำให้มีอาการเจ็บหน้าอก คล้ายๆ กับแน่นหน้าอก เหมือนคนเป็นโรคหัวใจ
3. จุก เสียด แน่นท้อง อาหารไม่ย่อย ซึ่งจะมีอาการจะคล้ายกับคนเป็นโรคกระเพาะอาหาร

ปัจจัยที่ส่งผลให้เป็นกรดไหลย้อนได้อีกด้วย คือ
1. พฤติกรรมการบริโภคการรับประทานอาหารอาหารรสจัดหรือรสเผ็ด อาหารประเภทไขมันสูง อาหารทอด ชา กาแฟ น้ำอัดลม การดื่มสุรา รวมทั้งการสูบบุหรี่2. พฤติกรรมการนอนหรือการเอนกายทันทีหลังรับประทานอาหาร
3. ความเครียดส่งผลให้น้ำกรดหลั่งออกมาตลอดเวลาก็ทำให้ล้นไหลขึ้นมาได้
4. โรคอ้วน เพราะด้วยสรีระที่แน่นอึดอัด พุงใหญ่ ตลอดจนการสวมเสื้อผ้าที่คับและการรัดเข็มขัดแน่น ๆ ก็เป็นสาเหตุของการเกิดโรคได้เช่นกัน
5. การตั้งครรถ์ ด้วยเหตุผลคล้ายกับโรคอ้วน เพราะมีสรีระรูปร่างๆ คล้ายๆ กัน
6. ยาบางชนิด เช่น ยาขยายหลอดลม ยาลดความดันบางกลุ่ม ตลอดจนกลุ่มยาฮอร์โมนบางตัวก็มีผลกระตุ้นการคลายตัวของหูรูดหรือมีการหลั่งกรดมากขึ้น

กันต์โตะ ชาสมุนไพร เชียงใหม่
www.chiangmaiteashop.com

Line ID: chiangmaitea  | Line ID: chiangmaiteashop

Read more…

January 07, 2016

หญ้าดอกขาว ทำให้ไม่อยากข้าว และเป็นชาเลิกบุหรี่ จริงไหม

สารออกฤทธิ์ใน "หญ้าดอกขาว" หรือหญ้าหมอน้อย ที่ทำมาในรูปแบบชาชงสมุนไพร หรือที่รู้จักกันในชื่อ ชาไม่อยากข้าว ซึ่งจะมีผลทำให้ความอยากอาหารลดลง และยังใช้เพื่อการเลิกบุหรี่ ทำให้ความอยากบุหรี่ลดลง ด้านสารที่ออกฤทธิ์ พบว่าในแต่ละส่วนของหญ้าดอกขาวมีสาระสำคัญที่แตกต่างกัน โดยที่โดดเด่นคือ ใบจะมีฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระโดยรวม (total antixidant capacity) ที่สูงที่สุด

ชาไม่อยากข้าว คือหนึ่งในนวัตกรรมทางภูมิปัญญาของหมอ "ส่วน สีมะพริก" หมอยาใหญ่ จ.ปราจีนบุรี ซึ่งหญ้าดอกขาวนอกจากช่วยอดเหล้า อดบุหรี่แล้ว ยังมีการใช้ลดการอักเสบในโรคหลอดลม ปวดเมื่อย เบาหวาน จากประสบการณ์การใช้หญ้าดอกขาวอย่างยาวนาน หมอพื้นบ้านทุกคนต่างพูดตรงกันว่า กินยาหญ้าดอกขาวแล้วจะไม่อยากข้าว
ชาไม่อยากข้าว
ชาสมุนไพร หญ้าดอกขาว ประโยชน์ในการนำมาใช้ในการบำบัด การเลิกบุหรี่ ต้านการอักเสบ  ลดปวดลดไข้ มีผลข้างเคียงคือทำให้ลดอาการอยากอาหารได้ นอกจากนี้ยังพบว่าสารสกัดหญ้าดอกขาวมีฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระ (antioxidant) ยับยั้งการอักเสบ (anti-inflammation) ลดปริมาณไขมันที่ถูกออกซิไดส์

โดยในสมุนไพรหญ้าดอกขาว มีสารประเภท
ฟีนอลิก (total phenolics)
สารกลุ่มคาเทชิน (catechin)
ฟลาโวนอยด์ (flavonoid)
ไอโซฟลาโวน (isoflavone)

นอกจากนี้แล้ว สิ่งที่สำคัญที่อาจเป็นคำตอบของสมุนไพร หญ้าดอกขาว ในการช่วยเลิกบุหรี่คือ ในสารสกัดหยาบจากใบและดอกที่ได้จากการเคี่ยวมีสารสำคัญคือ นิโคติน (nicotine) ในปริมาณต่ำ
สำหรับการศึกษาความปลอดภัยพบว่า หญ้าดอกขาวเป็นสมุนไพรที่มีความปลอดภัยสูง หลายแห่งได้มีการพัฒนาหญ้าดอกขาวในรูปแบบชาชงให้สามารถใช้ประโยชน์กันได้ง่ายขึ้น

ดังนั้น กลุ่มคนที่สูบบุหรี่ที่ค่อย ๆ เลิกบุหรี่ได้โดยไม่มีอาการข้างเคียงนั้น อาจเป็นผลมาจากมีการทดแทนของสารนิโคตินในกระแสเลือดไม่ให้ขาดหายไปทันที

ชาเลิกบุหรี่


แต่อย่างไรก็ตาม การเลิกบุหรี่ที่ดีที่สุด นอกจากการใช้สมุนไพรหญ้าดอกขาวแล้ว ต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมโดยหันไปออกกำลังกายร่วมกับความตั้งใจ เพื่อตนเองหรือบุคคลที่คุณรักจะช่วยเสริมทำให้เลิกบุหรี่ได้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.chiangmaiteashop.com/chiangmaitea-item-ชาหญ้าดอกขาว-(ชาไม่อยากข้าว)-ชาเลิกบุหรี่พร้อมชง-pid2150098.html

ปราถนาดีจาก. กันต์โตะ ชาสมุนไพร เชียงใหม่
www.chiangmaiteashop.com
Line ID: chiangmaitea
Line ID: chiangmaiteashop

Read more…

Popular Posts