August 22, 2013

ดื่มชาเขียวแช่เย็น เป็นอันตรายจริงหรือ ???


คงจะเป็นเพราะว่าชาเขียวในท้องตลาดหลากหลายยี่ห้อขายดิบขายดี ก็เลยมีการเขียนข้อความและส่งต่อทางอีเมล์  โดยอ้างชื่อหน่วยงานภาครัฐแห่งหนึ่งให้ข้อมูลทำนองว่า การ ดื่มชาเขียวที่แช่เย็น จะทำให้เกิดโทษต่อร่างกาย กล่าวคือ นอกจากไม่ช่วยในการอนูมูลอิสระ หรือสารพิษออกจากร่างกายแล้ว ยังก่อให้เกิดการเกาะตัวแน่นของสารพิษอันเป็นสาเหตุของมะเร็งอีกด้วย นอกจากนี้ ยังส่งผลให้ไขมันในร่างกายก่อตัวมากขึ้นตามผนังหลอดเลือด และอุดตันตามผนังลำไส้ มะเร็งลำไส้ทำให้เกิดโรคร้ายตามมา เข่น หลอดเลือดหัวใจอุดตัน มะเร็งลำไส้ เส้นเลือดตีบ ”  เป็นต้น
          อีเมล์ดังกล่าวจะเป็นเรื่องจริงหรือเท็จ มาฟังจากปาก นพ.กฤษดา  ศิรามพุช  ผอ.สถาบันเวชสาสตร์อายุรวัฒน์นานาชาติ กันครับ
          นพ.กฤษดา กล่าวว่า ก่อนอื่นต้องอธิบายเกี่ยวกับชาก่อน  ชาแบ่งเป็นประเภทง่ายๆ ตามปริมาณสารต้านอนุมูลอิสระ มีอยู่ 5 กลุ่ม คือ
 
  1. ชาเขียว  เป็นชาที่ไม่ได้ผ่านการหมัก
  2. ชาดำ  จะหมักนาน โดนอากาศ ทำให้สารต้านอนุมูลอิสระลดลง
  3. ชาอู่หลง  เป็นชาที่หมักส่วนหนึ่ง ไม่ได้หมักส่วนหนึ่ง จะมีสารต้านอนุมูลอิสระมากกว่ากลุ่มที่ 2 แต่น้อยกว่ากลุ่มแรก
  4. ชาขาว  มาจากส่วนยอดของใบชาที่ยังเป็นตุ่มอยู่เลย ยังไม่ผลิใบ ปีหนึ่งจะเก็บได้ 2 ครั้งคุณสมบัติก็พอๆ กับชาเขียวเพราะมีสารต้านอนุมูลอิสระ  และ
  5. ชาสมุนไพร  เป็นชาแบบไม่ใช่ชา เช่น ชาดอกไม้ ชามะลิ ใบหม่อน เป็นต้น
 


      สารต้านอนุมูลอิสระในชา คือ สารคาเทชิน และอีกตัวคือแทนนินซึ่งมีประโยชน์คือทำให้ลำไส้ปกติ ไม่แปรปรวน โดยแทนนินจะมีรสฝาด
     ชาที่เป็นซองซอยหรือหั่นละเอียด จะดีกว่าชาที่กินเป็นใบตรงที่ว่า ชาหั่นละเอียดจะทำให้สารแทนนินหรือสารฝาดออกมาเยอะ แต่บางคนอาจจะไม่ชอบรสฝาดเท่าไหร่ คือถ้าชอบรสอ่อนหน่อยก็จะดื่มชาที่เป็นใบๆ
     วิธีการเลือกดื่มชาคือ ไม่ควรเลือกชารสฝาดเกินไป เพราะ ถ้าชารสฝาดเกินไปอาจจะเป็นกากชาที่มันหักหรือทิ้งไว้นานก็ได้ เลือกชาที่มีรสจางอ่อนจนเกินไป เพราะ เท่ากับว่าแทบจะไม่มีสารต้านอนุมูลอิสระอยู่เลย ส่วนสีก็พอจะบอกได้ว่า ถ้าสีเข้มน่าจะมีสารแทนนินเยอะ แต่สีจางก็ไม่ได้บอกว่าจะไม่ดีเสมอไป
     สารต้านอนุมูลอิสระคือคาเทชินในชาจะหายไปถ้าโดนความร้อนจัดนานนับชั่วโมง โดยมีงานวิจัยระบุว่า สารต้านอนุมูลอิสระจะหายไปประมาณ 20%หากโดนความร้อนนานๆ แต่คนที่ดื่มชาส่วนใหญ่จะชงชาดื่ม ไม่ต้มชา ดังนั้นจึงไม่ค่อยมีปัญหาอะไร


     เพราะฉะนั้นที่อีเมล์ระบุว่า ชาที่เย็น จะทำให้เกิดมะเร็งนั้น ไม่น่าจะเป็นความจริงแต่อย่างใด
สิ่งที่น่าห่วงในชาเขียวที่เป็นขวดๆ แช่เย็น คือพวกน้ำตาลมากกว่าเพราะถ้าดื่มในปริมาณมากๆ
อาจทำให้อ้วนได้ !!

     ใครที่ไม่ควรดื่มชา ? คนที่มีปัญหา ท้องอืดบ่อยๆ เพราะชาจะทำให้ท้องอืด ลำไส้บีบตัวไม่ดีนัก เด็กก็ไม่ควรดื่ม และคนที่เป็นโรคหัวใจ ก็ไม่ควรดื่ม เพราะจะทำให้ใจเต้นเร็วทำงานหนักขึ้น หญิงตั้งครรภ์ก็เช่นกันเพราะในชามีกาแฟอีน อาจจะส่งผลต่อการบีบตัวของมดลูก และไปกระตุ้นตัวอ่อนในครรภ์ได้ อาจส่งผลทำให้คลอดก่อนกำหนดรวมทั้งคนที่เป็นโรคไต เพราะจะทำให้ปัสสาวะบ่อย


     แล้วใครที่ควรจะดื่มชาบ้าง? คนที่อยากจะควบคุมน้ำหนัก มีงานวิจัยชิ้นหนึ่งระบุว่า สารแทนนินในชา ถ้ารวมกับกาเฟอีน ซึ่งมันมีอยู่ในชาทั้ง 2 ชนิด จะช่วยในเรื่องการเผาผลาญในร่างกาย แต่ไม่ถึงกับช่วยลดน้ำหนัก ดังนั้น คนที่จะคุมน้ำหนักก็สามารถดื่มชาได้ร่วมกับการออกกำลังกาย และอีกกลุ่มหนึ่งที่ควรดื่มชา คือ คนที่สูบบุหรี่จัด พวกนี้จะมีสารอนุมูลอิสระเยอะ ก็คงต้องการสารคาเทชินมากหน่อย  ไปช่วยต่อต้านสารอนุมูลอิสระซึ่งเป็นต้นเหตุของมะเร็ง รวมไปถึงคนที่ต้องใช้สมองเยอะๆ ขี้หลง ขี้ลืม คาเทชินจะช่วยล้างตะกรันแก่ในสมองได้

     แนะเคล็ดลับง่ายๆให้สารต้านอนุมูลอิสระในชาเขียวยังคงอยู่คือ ระหว่าง ชงชาให้ใส่มะนาวลงไปด้วย คือ แทนที่จะกินชาเขียวร้อนๆ อย่างเดียวก็กินชาผสมมะนาวไปด้วยแต่ถ้าไม่ชอบรสเปรี้ยวก็ไม่ต้องใส่มะนาวก็ ได้
     สรุป ว่า  ชาเขียว แช่เย็นไม่ได้เป็นอันตรายตามที่ข้อความในอีเมล์ระบุ แต่ข้อควรระวังก็คือปริมาณน้ำตาลในชาเขียวที่เป็นขวดมากกว่า เพราะหากดื่มมากจนเกินไป และไม่ออกกำลังกาย อาจทำให้อ้วนได้ ส่วนใครจะดื่มหรือไม่ดื่มชานั้น ถือเป็นสิทธิส่วนบุคคลที่จะใช้วิจารณญาณไตร่ตรองเอง เพราะเรื่องแบบนี้ไม่มีใครไปบังคับกันได้
 
รู้แบบนี้แล้ว คงต้องพิถีพิถัน ในการดื่มชากันหน่อยแล้วล่ะ ครับ....
 
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง :  http://www.chiangmaiteashop.com/shop-chiangmaitea-interest-220.html

Read more…

August 16, 2013

วิธีชงชาดอกไม้ ให้หอมแบบฉบับง่ายๆใน 4 ขั้นตอน

วิธีชงชาดอกไม้
1. ควรลวกภาชนะ กาชาหรือแก้วชา ที่ใช้ชงชาด้วยน้ำร้อนทิ้งไปก่อน 1 รอบ
2. ใส่ชาดอกไม้ 5-10 g. หรือ 1/3 ของภาชนะชงชา ลวกชาด้วยน้ำร้อนแบบเร็วๆ ทิ้งไปก่อน 1 รอบ
3. เทน้ำร้อนลงไปในภาชนะชงชา หรือประมาณ 200-250 ml. (น้ำควรมีอุณหภูมิ 100 องศา)
4. สกัดชาทิ้งไว้ประมาณ 1 นาที กรองชาดอกไม้ออก สามารถพร้อมดื่มได้เลย 

 
ชาดอกกุหลาบ (Rose FlowerTea)

Tips :
* ชาดอกไม้ สามารถชงซ้ำได้ 2-3 ครั้งหรือจนกว่ารสชาติจะเจือจางลง *
* การลวกชาด้วยน้ำร้อนทิ้งในน้ำแรก เพื่อเป็นการล้างฝุ่นตะกอนชาตามธรรมชาติ และยังเป็นการกระตุ้นชาให้มีกลิ่นหอมยิ่งขึ้นอีกด้วย *
* สามารถชงผสมพร้อมกับชาจีนหรือสมุนไพรต่างๆได้ เช่น ชาเขียว ชาอู่หลง ชาใบหม่อน และสามารถปรุงรสชาติโดยการเติมน้ำผึ้ง เพื่อเพิ่มรสชาติได้ตามความต้องการ *


ง่ายๆเพียงเท่านี้ท่านก็จะได้ ชาดอกไม้ที่แสนหอม รสชาติเยี่ยม สุดคลาสสิค 
ไว้ดื่มเพื่อผ่อนคลายในวันพักฝ่อนสบายๆของคุณครับ

กันต์โตะ ชาสมุนไพร ชาดอกไม้ เชียงใหม่
www.chiangmaiteashop.com

Read more…

August 13, 2013

ชาจีนต้าหงเผา ชาจีนที่มีประวัติยาวนาน กรรมวิธีการผลิตที่สลับซับซ้อนตามแบบฉบับชาจีนโบราณ เป็นชาที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวสูงและน่าสนใจตัวหนึ่ง

ชาจีนต้าหงเผา [ 大 红 袍 ]
ชาจีนที่มีประวัติยาวนานและน่าสนใจตัวหนึ่ง เป็นชากึ่งหมักที่ให้รสชาติที่นุ่ม ชุ่มคอกำลังดี ใช้กรรมวิธีที่สลับซับซ้อน และคั่วด้วยไฟความร้อนสูง จึงได้กลิ่นคั่วชาที่หอมละมุนละไม เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ

ชาต้าหงเผา (Dahongpao Tea)
ในปัจจุบัน ชาจีนต้าหงเผา มีวิธีและกรรมวิธีขั้นตอนการผลิตแบบชาต้าหงเผาโบราณ โดยทำจาก ชาอู่หลงก้านอ่อน เบอร์17 จึงได้มาซึ่งชาต้าหงเผา ยุคใหม่ ที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว จึงได้ชาต้าหงเผา ที่รสชาติเยี่ยม หอมกรุ่นละมุน มีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร และทานง่ายกว่า รสชาติชาที่ถูกคอคนไทยและชาวต่างชาติอีกด้วยครับ

ชาต้าหงเผา มีส่วนช่วยในเรื่อง
+ ลดไขมันและคอเรสเตอรอลในร่างกาย
+ ป้องกันโรคหัวใจ และสารก่อเกิดโรคมะเร็ง
+ ต่อต้านอนุมูลอิสระที่กระตุ้นให้มีการก่อตัวของตะกอนไขมันที่ผนังหลอดเลือด
+ ช่วยชำระสารพิษในร่างกาย
+ ลดความดันโลหิต ลดระดับน้ำตาลในเส้นเลือด
+ บำรุงระบบประสาท บำรุงสมอง
+ ต้านอนุมูลอิสระ ขับสารพิษจากร่างกาย
+ ปรับสมดุลร่างกาย บำรุ่งธาตุร่างกาย

Read more…

August 08, 2013

สมุนไพรมะขามป้อม คุณรู้หรือไม่ว่าวิตามินซีจากมะขามป้อมนั้นมีมากกว่าน้ำส้มคั้นประมาณ 20 เท่าเลยทีเดียว

มะขามป้อม จัดเป็นผลไม้เพื่อสุขภาพและเป็นสมุนไพรพื้นบ้านอีกชนิดหนึ่งเพราะมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระอย่างวิตามินซีสูงมาก โดยประโยชน์มะขามป้อมหรือสรรพคุณมะขามป้อมนั้นมีมากมาย และยังใช้ เป็นยารักษาโรคบางชนิดได้อีกด้วย เพราะมะขามป้อมนั้นอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิดที่ประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น วิตามินเอ วิตามินบี3 วิตามินซี ธาตุแคลเซียม ธาตุฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก และยังประกอบไปด้วย คาร์โบไฮเดรต ใยอาหาร เป็นต้น 

มะขามป้อม (Indian gooseberry) กันต์โตะ ชาสมุนไพร เชียงใหม่

มะขามป้อม (Indian gooseberry) เป็นผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง วิตามินซีในมะขามป้อมสามารถดูดซึมได้เร็วกว่าวิตามินซีชนิดเม็ดเป็นอย่างมาก และมีคุณค่าทางสมุนไพรด้วย และพบว่าในผลมะขามป้อมมีแร่ธาตุต่างๆสูง โดยเฉพาะธาตุเหล็ก เนื่องจากการดูดซึมธาตุเหล็กจะสูงขึ้นหากมีวิตามินซีร่วมอยู่ด้วย
 
ดังนั้นมะขามป้อม จึงน่าจะเป็นแหล่งธาตุเหล็กที่ดีสำหรับร่างกาย นอกจากนี้ยังมีกรดอะมิโนหลากชนิดในปริมาณสูง รวมทั้งมี lysine และ methionin ซึ่งมักขาดหรือมีปริมาณน้อย ในพืช ผลไม้นี้ให้ค่าพลังงานต่ำเนื่องจากมีคาร์โบไฮเดรตและน้ำตาลน้อย จึงเหมาะแม้กับผู้ที่ต้องการควบคุมอาหาร
และคุณรู้หรือไม่ว่าวิตามินซีในน้ำ คั้นจากผลของมะข้ามป้อม นั้นมีมากกว่าน้ำส้มคั้นประมาณ 20 เท่า ซึ่งมะขามป้อมลูกเล็กๆ 1 ผล จะมีปริมาณวิตามินซี เท่ากับส้ม 1-2 ผลเลยทีเดียว

วิธีชง ชามะขามป้อม
ใช้มะขามป้อมสดหรือแห้ง ประมาณ 5-6 ลูก ต้มกับน้ำ 5 แก้วให้ เสร็จแล้วยกลงพอให้น้ำยาอุ่นๆ สามารถดื่มแทนน้ำทั้งวัน

ผลงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ของ สรรพคุณมะขามป้อม
1.พบว่าสารสกัดด้วยน้ำของผลมะขามป้อม ช่วยยับยั้งความเป็นพิษต่อตับและไต ซึ่งพบว่าป้องกันพิษที่เนื่องมาจากตะกั่ว และอะลูมิเนียม ในเนื้อเยื่อตับและไตของหนู ได้ดีเมื่อเทียบกับวิตามินซี แต่สารสกัด จากผลมะขามป้อมมีประสิทธิภาพดีกว่า
- ฤทธิ์ต้านการกลายพันธุ์ พบว่าให้ผลเช่นเดียวกับวิตามินซีในปริมาณเท่ากัน ในการลดความถี่ของการเกิดโครโมโซมผิดปกติและการแตกหักของโครโมโซม
- ฤทธิ์ต้านเชื้อไวรัส สามารถยับยั้งเอนไซม์ HIV-1 REVERSE TRANSCRIPTASE ได้ดี
- ฤทธิ์ต้านการเกิดแผลในกระเพาะอาหาร โดยมีฤทธิ์ต้านปฏิกิริยาออกซิเดชั่น ซึ่งเป็นปฏิกิริยาที่มีบทบาทสำคัญในการเกิดแผลในกระเพาะอาหาร และเพิ่มการหลั่งเยื่อเมือกในกระเพาะอาหาร
2.สารสกัดของมะขามป้อม สามารถยับยั้งการเกิดมะเร็งต่อตับได้ดีเมื่อทดสอบในสัตว์ทดลอง โดยประสิทธิภาพในการต้านการเกิดมะเร็งของสารสกัดนี้แปรผันตรงกับความเข้มข้น
3.น้ำคั้นผลสดเมื่อป้อนให้กระต่ายที่มีภาวะหลอดเลือดตีบแข็ง สามารถลดระดับคอเลสเตอรอล triglyceride phospholipids และ LDL ในซีรั่มลงถึง 82% 66% 77% และ 90% ตามลำดับ รวมทั้งยังขับถ่ายคอเลสเตอรอลและไขมันได้มากขึ้น
4.สารสกัดจากผลใบ และลำต้นของมะขามป้อมมีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียและสารสกัดจากเปลือกลำต้นมีฤทธิ์ต้านเชื้อรา

Cr: http://en.wikipedia.org/wiki/Phyllanthus_emblica
Cr: http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TURONWIzVXdNakV3TURVMU5nPT0=

Read more…

Popular Posts